การเขียนคำฟ้องแพ่ง: 2014

หลักเกณฑ์สำคัญ

1. คดีอยู่ระหว่างอะไร เช่น คดีนี้อยู่ระหว่างส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องให้แก่จำเลย

2. เราต้องการขออะไร โดยปรับให้เข้ากับเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนดในเรื่องนั้นๆ คือ ข้ออ้างและเหตุแห่งข้ออ้าง

3. ต้องการให้ศาลสั่งอย่างไร “ขอให้ศาลมีคำสั่ง...” คือเราต้องการอะไร

4. ลงท้ายว่า ขอศาลได้โปรดอนุญาต.... ควรมิควรแล้วแต่จะโปรด

การบรรยายสถานะคู่ความ(กรณีนิติบุคคลหรือนิติบุคคลโดยแท้)

ๆขห้างหุ้นส่วนสามัญ

ข้อ 1.) โจทก์เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการของห้างหุ้นส่วนสามัญสามสหาย ประกอบกิจการค้าขายวัสดุก่อสร้าง รายละเอียดปรากฎตามสำเนาสัญญาหุ้นส่วน เอกสารท้ายคำฟ้องหมายเลข 1

ข้อ 1.) จำเลยที่ 1 เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการของห้างหุ้นส่วนสามัญสามสหาย ประกอบกิจการค้าขายวัสดุก่อสร้างมี จำเลยที่ 2 และ จำเลยที่ 3 เป็นหุ้นส่วน รายละเอียดปรากฎตามสำเนาสัญญาหุ้นส่วนเอกสารท้ายคำฟ้องหมายเลข 1

ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคลคล

ข้อ 1.) โจทก์เป็นนิติบุคคลประเภทห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายมี นาย หนึ่ง มกรา เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการมีอำนาจลงลายมือชื่อและประทับตราสำคัญของโจทก์ได้ ประกอบกิจการ ค้าขายผลไม้ รายละเอียดปรากฎตามสำเนาหนังสือรับรองของสำนักงานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกรุงเทพมหานคร กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เอกสารท้ายคำฟ้องหมายเลข 1

ข้อ1.) จำเลยที่ 1 เป็นนิติบุคคลประเภทห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย มีจำเลยที่ 2 เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการจัดการและเป็นหุ้นส่วนประเภทไม่จำกัดความรับผิดมีอำนาจลงลายมือชื่อและประทับตราสำคัญของจำเลยที่ 1 กระทำการแทนจำเลยที่ 1 ได้ ประกอบกิจการค้าขายผลไม้ มีจำเลยที่ 2 และจำเลยที่ 3 เป็นหุ้นส่วนรายละเอียดปรากฎตามสำเนาหนังสือรับรองของสำนักงานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกรุงเทพมหานคร กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เอกสารท้ายคำฟ้องหมายเลข 1

ห้างหุ้นส่วนจำกัด

ข้อ1.) โจทก์เป็นนิติบุคคลประเภทห้างหุ้นจำกัด จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายมีหนึ่ง มกรา เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการ มีอำนาจลงลายมือชื่อและประทับตราสำคัญของโจทก์ กระทำการแทนโจทก์ได้ ประกอบกิจการ ค้าขายผลไม้ รายละเอียดปรากฎตามสำเนาหนังสือรับรองของสำนักงานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกรุงเทพมหานคร กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เอกสารท้ายคำฟ้องหมายเลข 1

ข้อ1.) จำเลยที่ 1 เป็นนิติบุคคลประเภทห้างหุ้นจำกัด จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย มีจำเลยที่ 2 เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการและเป็นหุ้นส่วนประเภทไม่จำกัดความรับผิดมีอำนาจลงลายมือชื่อและประทับตราสำคัญของจำเลยที่ 1 ระทำการแทนจำเลยที่ 1 ได้ ประกอบกิจการ ค้าขายผลไม้ รายละเอียดปรากฎตามสำเนาหนังสือรับรองของสำนักงานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกรุงเทพมหานคร กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เอกสารท้ายคำฟ้องหมายเลข 1

บริษัทจำกัด

ข้อ1.) โจทก์เป็นนิติบุคคลประเภท บริษัทจำกัด จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย มีนาย หนึ่ง มกราและนาย สอง มกรา เป็นกรรมการผู้มีอำนาจลงลายมือชื่อและประทับตราสำคัญของโจทก์ กระทำการแทนโจทก์ได้ ประกอบกิจการ ค้าขายผลไม้ รายละเอียดปรากฎตามสำเนาหนังสือรับรองของสำนักงานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกรุงเทพมหานคร กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เอกสารท้ายคำฟ้องหมายเลข 1

ข้อ1.) จำเลยที่ 1 เป็นนิติบุคคลประเภทบริษัทจำกัด จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายมีนาย หนึ่ง มกราและนาย สอง มกรา เป็นกรรมการผู้มีอำนาจลงลายมือชื่อและประทับตราสำคัญของจำเลยที่ 1 กระทำการแทนำเลยที่ 1ได้ ประกอบกิจการ ค้าขายผลไม้ รายละเอียดปรากฎตามสำเนาหนังสือรับรองของสำนักงานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกรุงเทพมหานคร กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เอกสารท้ายคำฟ้องหมายเลข 1

การบรรยายสถานะโจทก์-จำเลย (กรณีผู้เยาว์)

1.)กรณีผู้เยาว์ฟ้องคดีเอง(บิดามารดาจดทะเบียนสมรสตามกฎหมาย)

     โจทก์เป็นผู้เยาว์อายุ 15 ปี เป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายของ นาย หนึ่ง มกรา กับ นาง สอง มกรา จดทะเบียนสมรสเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2520 ณ.สำนักงานเขตบางรัก กรุงเทพมหานคร รายละเอียดปรากฎตามสำเนาใบสูติบัตรและใบสำคัญการสมรส เอกสารท้ายคำฟ้องหมายเลข 1 และ 2

     (ถ้ามีแต่บิดา บิดาต้องชอบด้วยกฎหมายโดยการ จดทะเบียนสมรส จดทะเบียนรับรองบุตรหรือโดยคำสั่งศาล เอกสารที่ต้องใช้ คือ สำเนาใบสูติบัตรและใบสำคัญการสมรส)

2.)กรณีผู้เยาว์ฟ้องคดีเองมีแต่มารดา

โจทก์เป็นผู้เยาว์อายุ 15 ปี เป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายของ นาง สอง มกรา ซึ่งเป็นผู้ใช้อำนาจปกครองและเป็นผู้แทนโดยชอบธรรมมีอำนาจฟ้องร้องและดำเนินคดีแทนโจทก์ได้ รายละเอียดปรากฎตามสำเนาใบสูติบัตร เอกสารท้ายคำฟ้องหมายเลข 1

3.)กรณีผู้เยาว์ฟ้องคดีเองโดยผู้แทนโดยชอบธรรมให้ความยินยอม

โจทก์เป็นผู้เยาว์อายุ 15 ปี เป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายของ นาย หนึ่ง มกรา กับ นาง สอง มกรา จดทะเบียนสมรสเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2520 ณ.สำนักงานเขตบางรัก กรุงเทพมหานคร และ บุคลทั้งสองให้ความยินยอมแก่โจทก์ในการฟ้องร้องและดำเนินคดีนี้ กับ จำเลยได้ด้วยตนเอง รายละเอียด ปรากฎสำเนาใบสูติบัตร,ใบสำคัญการสมรสและหนังสือให้ความยินยอมของบิดามารดาโจทก์ เอกสารท้ายคำฟ้องหมายเลข 1,2 และ 3

4.)กรณีผู้แทนโดยชอบธรรมฟ้องคดีแทนผู้เยาว์(กรณีบิดา)

โจทก์เป็นบิดาที่ชอบด้วยกฎหมายของนาย สาม มกรา ซึ่งเป็นผู้เยาว์อายุ 15 ปี โดยโจทก์จดทะเบียนสมรสกับนาง สอง มกรา เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2520 ณ.สำนักงานเขตบางรัก กรุงเทพมหานคร โจทก์จึงเป็นผู้ใชัอำนาจปกครองและเป็นผู้แทนโดยชอบธรรมมีอำนาจฟ้องร้องและดำเนินคดีแทนนาย สาม มกรา ได้รายละเอียดปรากฎตามสำเนาใบสูติบัตรและใบสำคัญการสมรส เอกสารท้ายคำฟ้องหมายเลข 1และ2

5.)กรณีผู้แทนโดยชอบธรรมฟ้องคดีแทนผู้เยาว์(กรณีมารดา)

โจทก์เป็นมารดาโดยชอบด้วยกฎหมายของ นาย สาม มกรา ซึ่งเป็นผู้เยาว์อายุ 15 ปี โจทก์จึงเป็นผู้ใช้อำนาจปกครองและเป็นผู้แทนโดยชอบธรรมมีอำนาจฟ้องร้องและดำเนินคดีแทนนาย สาม มกรา ได้รายละเอียดปรากฎตามสำเนาใบสูติบัตร เอกสารท้ายคำฟ้องหมายเลข 1

6.)กรณีมอบอำนาจให็ฟ้องคดี

โจทก์มอบอำนาจให้นาย หนึ่ง มกรา มีอำนาจฟ้องร้องและดำเนินคดีแทนนี้โจทก์ได้ รายละเอียดปรากฎตามสำเนาหนังสือมอบอำนาจ เอกสารท้ายคำฟ้องหมายเลข .....................
*หมายเหตุ ผู้มอบอำนาจ (ตัวการ) ผู้รับมอบอำนาจ (ตัวแทน) ถ้าก่อนฟ้องคดีผู้มอบอำนาจตายผู้รับมอบอำนาจสิ้นสุด ผู้ที่จะดำเนินคดีได็คือทายาทเท่านั้น

การเขียนคำฟ้องแพ่ง

ร่างสัญญาหรือนิติกรรม

การเขียนคำร้อง/คำขอ/คำแถลง